วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

แนวการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการเป็นอย่างไร น.ส.กุลพัชร ภูเฮืองแก้ว


จุดประสงค์ : แนวการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการเป็นอย่างไร (น.ส.กุลพัชร ภูเฮืองแก้ว)
               แนวการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการ
            พัฒนาผู้เรียนตามความสามารถที่แตกต่างขนาผู้เรียนตามความสามารถที่แตกต่างกันจำเป็นต้องพัฒนาความสามารถทุกด้าน-ของการ์ดเนอร์ (Gardner อ้างในวิชัยวงษ์ใหญ่2542: 8-11) นักจิตวิทยาชาวอเมริกันได้นำเสนอทฤษฎีพหุปัญญา (multiple intelligence theory) สรุปได้ว่าผู้เรียนมีความสามารถทั้ง 8 ด้านคือด้านภาษาศาสตร์ด้านภาพมิติสัมพันธ์ค้านร่างกายและการเคลื่อนไหวด้านดนตรีด้านมนุษย์สัมพันธ์ภาพธรรมชาติการเสริมสร้างความเก่งหรือศักยภาพความสามารด้านต่าง ๆ ที่มีอยู่ในตัวผู้เรียนผู้สอนจะต้องเข้าใจผู้เรียน รู้ถึงความถนัดความความสามารถในการเรียนรู้ที่หลากหลาย ในการเรียนรู้ด้านตรรกและคณิตศาสตร์ด้านภาพมิติสัมพันธ์ค้านร่างกายและการด้านการเข้าใจตนเองและด้านความเข้าใจสภาพธรรมชาติการเสริมสร้างความเก่งหลากหลาย ในการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อจะกระตุ้นความสามารถด้านแต่ความเด่นชัดปรากฎออกมาด้วยความรู้ความเข้าใจผู้สอนต้องมีความรู้ความเข้าใจประเมินจากผลการเรียนรู้ของผู้เรียนการพัฒนา
ความสามารถผู้สอนจึงมีหน้าที่ค้าต้นความสามารถด้านต่าง ๆ ผู้เรียนว่าเห็นและต้อยในเรื่องสยบให้พัฒนาไปให้เต็มศักยภาพของตน
            แนวทางการจัดการเรียนรู้ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ. ศ. 2542 มาตรา 23 ระบุว่าการมาต้องเน้นความสำคัญทั้งความรู้คุณธรรมกระบวนการเรียนรู้และบูรณาการซึ่งวิชัย วงษ์ใหญ่ (2547: 2) กล่าวว่าการบูรณาการ คือการผสมผสานที่กลมกลืนกันอย่างมีคุณภาพ ระหว่างองค์ประกอบหรือ ปัจจัยต่าง ๆทั้งรูปธรรมและนามธรรมที่มีเป้าหมายตรงกัน เพื่อให้ได้มาสิ่งใหม่หรือสภาพใหม่ที่มีคุณค่าและสมบูรณ์แบบโดยมีอัตราส่วนผสมที่เรรมและนามธรรมที่มีเป้าหมายตรงกันโดยมีอัตราส่วนผสมที่มอบหมายภายใต้สภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยและด้วยวิธีการที่มีสิทธิภาพจะได้ประโยชน์จากการบูรณาการสู่ชีวิตและการเรียนรู้
            การบูรณาการการเรียนรู้ คือ การเชื่อมโยงระหว่างสาขาวิชาต่าง ๆในหลักสูตร จะช่วยให้ผู้เรียนตระหนักว่าสิ่งที่ได้เรียนรู้ มีประโยชน์และสามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ลักษณะการเรียนรู้จะจัดเป็นหน่วยการเรียนรู้หรือเป็นหัวเรื่อง
            หน่วยบูรณาการ thematic approach จะกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้คือ
                        -ผู้เรียนเรียนรู้อย่างมีความหมาย
                        -เกิดองค์ความรู้ ความคิดแบบองค์รวม พัฒนาความสามารถการคิด
                        -เห็นความเชื่อมโยง นำไปสู่ความสามารถในการแก้ปัญหาแบบองค์รวม
                        -เกิดประสบการณ์ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริงสามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อม
                        -ผู้เรียนควบคุมการเรียนรู้ของตนเอง
            วิชัย วงษ์ใหญ่ (2547: 4) กล่าวสรุปไว้ว่าลักษณะการบูรณาการ 4 แบบคือ
                        1. การสอดแทรก (infusion) การบูรณาการแบบเชื่อมโยงโดยผู้สอนคนเดียว วิธีการสอดแทรกนี้ผู้สอนวิชาใดวิชาหนึ่งนำวิชาอื่น ๆ มาบูรณาการกับวิชาที่ตนสอนและสามารถเชื่อมโยงสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ ให้เชื่อมโยงกับหัวเรื่องชีวิตจริงหรือภาระการเรียนรู้ที่กำหนดขึ้นมา
                        2. คู่ขนาน (parallel) วิธีการคู่ขนานผู้สอนหลายคนมาจากหลายวิชามาวางแผนร่วมกัน เพื่อรวมองค์ประกอบของหัวเรื่อง (theme) มโนทัศน์ concept) หรือปัญหา (problem) แล้วผู้สอนแต่ละคนแต่ละวิชาแยกกันและการกำหนดชิ้นงานขึ้นอยู่กับผู้สอนแต่ต้องสะท้อนถึงหัวเรื่องแนวคิดหรือปัญหาที่กำหนดไว้รวมกันการบูรณาการแบบคู่ขนานในการสอนผู้สอน อาจตกลงกันว่าจะยึดเกี่ยวกับหัวข้อเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่สอดคล้องกับการพัฒนาสังคมและชีวิตที่มีการเชื่อมโยงคู่ขนาน เช่น ผู้สอนวิทยาศาสตร์จะสอนเรื่องเงาผู้สอนศิลปะอาจจะให้ผู้เรียนรู้เทคนิคการวาดรูปที่มีเงา
                        3. พหุวิทยาการ (multidisciplinary) วิธีการพหุวิทยาการผู้สอนหลายคนมาจากหลายสาขาวิชามา191แผนร่วมกันที่จะสอนเกี่ยวกับหัวเรื่อง (theme) มโนทัศน์ concept) หรือปัญหา (Problem) และกำหนดกรวมของโครงการ ร่วมกันให้ออกมาเป็นชิ้นงานแบ่งโครงการออกเป็นโครงการย่อยการบูรณาการในหลาย ๆ สาขาวิชาสามารถวางแผนสร้างสรรค์โครงการของตนเองขึ้นมาได้โดยใช้เวลาการเรียนต่อเนื่องได้หลายชั่วโมง
                        4. การข้ามวิชาหรือการสอนเป็นทีม (transdisciplinary) วิธีการข้ามวิชาหรือสอนเป็นที่แต่ละรายวิชามาวางแผนร่วมกันในองค์ประกอบของ หัวเรื่อง (theme) มโนทัศน์ (concept) หรือ problem) กำหนดเป็นโครงการขึ้นมาและร่วมกันสอนเป็นคณะ
            กรมวิชาการ (กองวิจัยทางการศึกษากรมวิชาการ, 2545: 6-7) เสนอแนวคิดในการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการไว้ดังนี้
                        1.การบูรณาการแบบผู้สอนคนเดียว เป็นการจัดการเรียนการสอนของครูผู้สอนหนึ่งคนมีการเชื่อมโยงสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ กับชีวิตจริง หรือการเชื่อมโยงสาระและกระบวนการเรียนรู้ภายในกลุ่มสาระต่าง ๆ เช่น การอ่าน การเขียน คิดคำนวณ การคิดวิเคราะห์ ทำให้ผู้เรียนได้ใช้ทักษะและกระบวนการเรียนรู้ไปแสวงหาความรู้ความจริงจากหัวข้อเรื่องที่กำหนด
                        2.การบูรณาการแบบคู่ขนาน เป็นการจัดการเรียนการสอนของครูผู้สอนสองคนขึ้นไปร่วมกันจัดการเรียนการสอนโดยยึดหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง เช่น ครูคนหนึ่งสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ส่วนครูอีกคนหนึ่งสอนวิชาคณิตศาสตร์ ในการสอนเรื่อง“ น้ำ” สถานะต่าง ๆ ส่วนวิชาคณิตศาสตร์อาจสอนการวัดปริมาตรหรือน้ำหนักของน้ำวิชาวิทยาศาสตร์อาจสอนเกี่ยวกับคุณสมบัติของน้ำ
                        3. การบูรณาการแบบสหวิทยาการ เป็นการจัดการเรียนการสอนจากการนำเนื้อหาจากหลายกลุ่มสาระมาเชื่อมโยงและจัดการเรียนการสอนร่วมกันในเรื่องเดียวกัน เช่น ในวันสิ่งแวดล้อมจัดการเรียนการสอนให้เรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์จัดกิจกรรมค้นคว้าหาความรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมครูผู้สอนวิชาสังคมศึกษาและวิชาสุขศึกษาให้เรียนรู้โดยทำกิจกรรมชมรมสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นต้น
                        4. การบูรณาการแบบโครงการ เป็นการจัดการเรียนการสอนที่ครูผู้สอนและนักเรียนร่วมกันสร้างสรรค์โครงการ และใช้เวลาเรียนต่อเนื่องกันได้หลายชั่วโมง โดยการนำจำนวนชั่วโมงของแต่ละรายวิชาที่เคยแยกกันอยู่ ที่เคยแยกกันสอน มารวมเป็นเรื่องเดียวกันกำหนดเป้าหมายเดียวกัน ในลักษณะของการสอนเป็นทีม ถ้าต้องการเน้นทักษะเฉพาะก็สามารถแยกกันสอนได้ เช่น กิจกรรมเข้าค่ายภาษาอังกฤษกิจกรรมค่ายศิลปะเป็นต้น
                        วิชัย  วงษ์ใหญ่ (2547: 5) สรุปภาพรวมของรูปแบบเรียนการสอนแบบการบูรณาการ 3 การประเมินผลและผลการเรียนรู้ไว้ดังนี้
ตารางที่ 22 รูปแบบการบูรณาการ วิธีการ/กิจกรรม การประเมิน และผลการเรียนรู้
การบูรณาการ
วิธีการ / กิจกรรม
การประเมิน
ผลการเรียนรู้
สอดแทรก
ผู้สอนกำหนดหัวเรื่องและสอดแทรกสาระจากวิชาอื่น ๆ เข้ามาในวิชาของตามตนและมอบหมายงานตามที่กำหนด
ประเมินจากงานที่มอบหมายตามเกณฑ์ที่กำหนด
ผู้เรียนมองเห็นความสัมพันธ์ระหว่างวิชาและเรียนรู้อย่างมีความหมาย
คู่ขนาน
ผู้สอนหลายคนวางแผนร่วมกันโดยกำหนดหัวเรื่อง ความคิดรวบยอด ปัญหา สถานการณ์ ผู้สอนในวิชาของตนภายในหัวเรื่องเดียวกัน
ประเมินโครงงานและชิ้นงานที่มอบหมายตามที่เกณฑ์กำหนด
ผู้เรียนสามาถนำความรู้จากวิชาต่าง ๆ มาสร้างสรรค์งานได้และเรียนรู้อย่างมีความหมาย
พหุวิทยาการ
ผู้สอนหลายคนวางแผนร่วมกัน โดยกำหนดหัวเรื่องความคิดรวมยอด ปัญหา สถานการณ์ แล้วผู้สอนแตกละคนต่างแยกกันสอน ภายใต้หัวเรื่องเดียวกัน
ประเมินโครงงานและชิ้นงานที่มอบหมายตามที่เกณฑ์กำหนด
ผู้เรียนสามาถนำความรู้จากวิชาต่าง ๆ มาสร้างสรรค์งานได้และเรียนรู้อย่างมีความหมาย มีประสบการณ์
สอนเป็นทีมหรือข้ามวิชา
ผู้สอนหลายคนวางแผนร่วมกัน โดยกำหนดหัวเรื่องความคิดรวมยอด ปัญหา สถานการณ์ สาระ จุดประสงค์ โดยร่วมกันสอนเป็นทีมในเรื่องเดียวกันตามแผนจัดการเรียนรู้ที่กำหนดให้ผู้เรียนกลุ่มเดียวกัน ผู้สอนกำหนดโครงการชิ้นงานให้ผู้เรียนทำร่วมกันเป็นชิ้นงานใหญ่
ประเมินโครงงานและชิ้นงานที่มอบหมายตามที่เกณฑ์กำหนด
ผู้เรียนสามาถนำความรู้จากวิชาต่าง ๆ นำความรู้มาสร้างสรรค์โครงงาน ชิ้นงานได้ และเรียนรู้อย่างมีความหมาย มีประสบการณ์ มีศักภาพในการคิดวิเคราะห์ และการแก้ปัญหา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น