แผนการจัดการเรียนรู้ (ผู้จัดทำ นางสาวชลธิชา สายเเสงจันทร์)
1. ความหมายและกระบวนการจัดการเรียนรู้
1.1 แผนการจัดการเรียนรู้ หมายถึง แผนการสอนนั่นเอง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ดี
ควรมีกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติจริงเหมาะสมกับความสามารถ
ความถนัดและความสนใจของผู้เรียน ให้ผู้เรียนได้ค้นพบคำตอบหรือการกระทำด้วยตนเอง
ให้ผู้เรียนรับรู้และนำกระบวนการไปใช้จริงในชีวิตประจำวัน รวมทั้ง
ส่งเสริมการใช้วัสดุอุปกรณ์ที่สามารถจัดหาได้ในท้องถิ่น
โดยครูคอยให้คำแนะนำและดูแลนักเรียน
1.2 กระบวนการจัดการเรียนรู้ ตามแนวทางปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้
1) จัดเนื้อหาและกิจกรรมสอดคล้องกับความสามารถ
ความสนใจและความถนัดของ
ผู้เรียน
2) จัดการเรียนรู้ให้เกิดทุกเวลาทุกสถานที่ ประสานกับผู้ปกครอง บุคคลในชุมชนเพื่อ
พัฒนาผู้เรียน
3) ฝึกทักษะกระบวนการคิด วิเคราะห์ และการแก้ปัญหา
4) จัดให้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ได้ปฏิบัติจริง คิดเป็น ทำเป็น รู้จักแก้ปัญหา ใฝ่รู้ใฝ่
เรียนอย่างต่อเนื่อง
5) จัดการเรียนรู้ผสมผสานสาระความรู้ด้านต่าง ๆ รวมทั้งปลูกฝัง คุณธรรม ค่านิยมอันพึง
ประสงค์แก่ผู้เรียน
6) จัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม สื่อ สิ่งอำนวยความสะดวกต่อการเรียนรู้ รวมทั้งใช้การ
วิจัยให้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้
ผู้เรียน
2) จัดการเรียนรู้ให้เกิดทุกเวลาทุกสถานที่ ประสานกับผู้ปกครอง บุคคลในชุมชนเพื่อ
พัฒนาผู้เรียน
3) ฝึกทักษะกระบวนการคิด วิเคราะห์ และการแก้ปัญหา
4) จัดให้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ได้ปฏิบัติจริง คิดเป็น ทำเป็น รู้จักแก้ปัญหา ใฝ่รู้ใฝ่
เรียนอย่างต่อเนื่อง
5) จัดการเรียนรู้ผสมผสานสาระความรู้ด้านต่าง ๆ รวมทั้งปลูกฝัง คุณธรรม ค่านิยมอันพึง
ประสงค์แก่ผู้เรียน
6) จัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม สื่อ สิ่งอำนวยความสะดวกต่อการเรียนรู้ รวมทั้งใช้การ
วิจัยให้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้
2. สิ่งที่ต้องศึกษาก่อนลงมือเขียนแผนการจัดการเรียนรู้
2.1
ศึกษาหลักสูตรสถานศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
2.2 ศึกษามาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนช่วงชั้น
2.3 วิเคราะห์หลักสูตร
2.4 ศึกษาธรรมชาติของกลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี
2.5 ศึกษาการวัดผลและการประเมินผล
2.6 ศึกษาแหล่งเรียนรู้และสื่อ
2.7 ศึกษาองค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้
2.8 ศึกษาเทคนิควิธีการสอนที่หลากหลาย
2.9 ออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้
2.10 จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้
2.2 ศึกษามาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนช่วงชั้น
2.3 วิเคราะห์หลักสูตร
2.4 ศึกษาธรรมชาติของกลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี
2.5 ศึกษาการวัดผลและการประเมินผล
2.6 ศึกษาแหล่งเรียนรู้และสื่อ
2.7 ศึกษาองค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้
2.8 ศึกษาเทคนิควิธีการสอนที่หลากหลาย
2.9 ออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้
2.10 จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้
3. หลักในการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้
3.1 ควรรู้ว่าสอนเพื่ออะไร
3.2 ใช้วิธีการสอนอย่างไร
3.3 สอนแล้วผลเป็นอย่างไร
3.2 ใช้วิธีการสอนอย่างไร
3.3 สอนแล้วผลเป็นอย่างไร
4. องค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้
4.1 สาระสำคัญ
4.2 จุดประสงค์การเรียนรู้
4.3 เนื้อหา/สาระการเรียนรู้
4.4 กิจกรรมการเรียนรู้
4.5 การวัดและประเมินผล (มีเกณฑ์การวัดผลที่ชัดเจน)
4.6 สื่อและแหล่งเรียนรู้
4.7 ความคิดเห็นของผู้บริหาร/ผู้นิเทศ
4.8 บันทึกผลหลังสอน
4.2 จุดประสงค์การเรียนรู้
4.3 เนื้อหา/สาระการเรียนรู้
4.4 กิจกรรมการเรียนรู้
4.5 การวัดและประเมินผล (มีเกณฑ์การวัดผลที่ชัดเจน)
4.6 สื่อและแหล่งเรียนรู้
4.7 ความคิดเห็นของผู้บริหาร/ผู้นิเทศ
4.8 บันทึกผลหลังสอน
5. ส่วนประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ที่สมบูรณ์
5.1 ปก
5.2 ใบรองปก
5.3 คำนำ
5.4 สารบัญ
5.5 มาตรฐานการเรียนรู้
5.6 ตารางวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้
5.7 ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้รายภาค/รายปี
5.8 คำอธิบายรายวิชา
5.9 หน่วยการเรียนรู้
5.10 แผนการจัดการเรียนรู้
5.11 สื่อ/นวัตกรรม
5.12 บรรณานุกรม
5.2 ใบรองปก
5.3 คำนำ
5.4 สารบัญ
5.5 มาตรฐานการเรียนรู้
5.6 ตารางวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้
5.7 ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้รายภาค/รายปี
5.8 คำอธิบายรายวิชา
5.9 หน่วยการเรียนรู้
5.10 แผนการจัดการเรียนรู้
5.11 สื่อ/นวัตกรรม
5.12 บรรณานุกรม
6.1 สาระสำคัญ
สาระสำคัญ หมายถึง ข้อความที่เป็นแก่นของเนื้อหาสาระ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่าง ๆ ของเนื้อหาสาระของแผนการสอนนั้น
สาระสำคัญ หมายถึง ข้อความที่เป็นแก่นของเนื้อหาสาระ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวคิดต่าง ๆ ของเนื้อหาสาระของแผนการสอนนั้น
วิธีเขียน
1) เขียนอย่างสรุป กระชับ
2) ใช้คำที่มีความหมายเจาะจง แน่นอน เช่น “เป็น” “ประกอบ” “หมายถึง” “คือ”
3) เป็นการขยายชื่อเรื่อง
4) เขียนเป็นความเรียงหรือเป็นข้อก็ได้ ส่วนใหญ่นิยมเป็นความเรียง
5) เริ่มด้วยสิ่งที่จำเป็นและสำคัญที่สุดของเนื้อหาก่อนแล้วตามด้วยรายละเอียดที่สำคัญ
เช่น เขียนชื่อเรื่อง ตามด้วย เป็น /หมายถึง/คือ แล้วตามด้วย ข้อความขยายชื่อเรื่อง
1) เขียนอย่างสรุป กระชับ
2) ใช้คำที่มีความหมายเจาะจง แน่นอน เช่น “เป็น” “ประกอบ” “หมายถึง” “คือ”
3) เป็นการขยายชื่อเรื่อง
4) เขียนเป็นความเรียงหรือเป็นข้อก็ได้ ส่วนใหญ่นิยมเป็นความเรียง
5) เริ่มด้วยสิ่งที่จำเป็นและสำคัญที่สุดของเนื้อหาก่อนแล้วตามด้วยรายละเอียดที่สำคัญ
เช่น เขียนชื่อเรื่อง ตามด้วย เป็น /หมายถึง/คือ แล้วตามด้วย ข้อความขยายชื่อเรื่อง
6.2 จุดประสงค์การเรียนรู้
การเขียนจุดประสงค์การเรียนรู้ เป็นการบอกให้ทราบว่าเมื่อสิ้นสุดการสอนแล้วผู้เรียนจะทำอะไรได้บ้าง
การเขียนจุดประสงค์การเรียนรู้ เป็นการบอกให้ทราบว่าเมื่อสิ้นสุดการสอนแล้วผู้เรียนจะทำอะไรได้บ้าง
วิธีเขียน
1) เขียนให้สอดคล้องกับผลการเรียนที่คาดหวัง และมาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น
2) เขียนให้สังเกตได้ วัดได้
3) การเขียนมีองค์ประกอบ 3 ส่วน
ส่วนที่ 1 เป็นพฤติกรรม (ใช้คำกริยา)
ส่วนที่ 2 เงื่อนไขหรือสถานการณ์
ส่วนที่ 3 เกณฑ์ (ความสามารถขั้นต่ำในการบรรลุจุดประสงค์ )
1) เขียนให้สอดคล้องกับผลการเรียนที่คาดหวัง และมาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น
2) เขียนให้สังเกตได้ วัดได้
3) การเขียนมีองค์ประกอบ 3 ส่วน
ส่วนที่ 1 เป็นพฤติกรรม (ใช้คำกริยา)
ส่วนที่ 2 เงื่อนไขหรือสถานการณ์
ส่วนที่ 3 เกณฑ์ (ความสามารถขั้นต่ำในการบรรลุจุดประสงค์ )
6.3
เนื้อหาสาระ/สาระการเรียนรู้
1) เขียนให้มีความถูกต้อง
2) เขียนให้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ข้อต่อข้อ
3) เขียนเนื้อหาใหญ่ เนื้อหาย่อยและมีรายละเอียดของเนื้อหา
2) เขียนให้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ข้อต่อข้อ
3) เขียนเนื้อหาใหญ่ เนื้อหาย่อยและมีรายละเอียดของเนื้อหา
6.4 กิจกรรมการเรียนรู้
1) กิจกรรมที่จัดควรเป็นกิจกรรมการเรียนรู้
ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ยกตัวอย่าง
เช่น
- กิจกรรมการซักถาม คือการตั้งคำถามให้ช่วยกันตอบ อาจซักถามเป็นกลุ่มหรือในชั้นเรียน เกี่ยวกับเรื่องที่เรียน หรือกิจกรรมที่ปฏิบัติ
- กิจกรรมการอภิปราย หัวข้อการอภิปรายอาจเป็นข้อความหรือเป็นคำถามก็ได้ (ส่วนใหญ่นิยมหัวข้อที่เป็นคำถาม) ผู้อภิปรายแต่ละคนจะแสดงเหตุผลหรืออธิบายเพื่อสนับสนุน หรือโต้แย้งหัวข้อที่กำหนดโดยไม่มีการแบ่งฝ่าย และไม่มีการลงมติ อาจจะเป็นการอภิปรายปากเปล่าในกลุ่มหรือในชั้นเรียนและอาจให้ทุกคนเขียนสรุปผลการอภิปราย
- กิจกรรมการแสดงความคิดเห็น คือการตั้งข้อสังเกต หรือให้ข้อสรุป ตามความติดเห็นหรือตามเหตุผลของแต่ละบุคคลโดยไม่จำเป็นต้องสนับสนุนหรือคัดค้าน อาจแสดงความเห็นโดยพูด หรือเขียน ถ้าเป็นการเขียนจะมีลักษณะทำนองเดียวกับการตอบคำถามที่ต้องการให้แสดงความเห็นหรือเหตุผลประกอบคำตอบในคำถามประเภทให้ตอบเสรี
- กิจกรรมการค้นหา คือการศึกษาค้นคว้าหาข้อเท็จจริง ข้อมูลสาระสนเทศ หรือทักษะกระบวนการ(การกระทำหลายการกระทำ ซึ่งกระทำต่อเนื่องกันไปเป็นชุดเพื่อให้เกิดผลอย่างหนึ่ง) ซึ่งอาจทำโดยการรวบรวมหรือสืบค้นข้อมูลหลักฐานทางประวัติศาสตร์ และสังคมวัฒนธรรม การบันทึก วิเคราะห์ สังเคราะห์ การทดลอง การตรวจสอบกฎหรือหลักการทางเศรษฐ์ศาสตร์ การหาคำตอบในวิชาคณิตศาสตร์ การแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน
- กิจกรรมการซักถาม คือการตั้งคำถามให้ช่วยกันตอบ อาจซักถามเป็นกลุ่มหรือในชั้นเรียน เกี่ยวกับเรื่องที่เรียน หรือกิจกรรมที่ปฏิบัติ
- กิจกรรมการอภิปราย หัวข้อการอภิปรายอาจเป็นข้อความหรือเป็นคำถามก็ได้ (ส่วนใหญ่นิยมหัวข้อที่เป็นคำถาม) ผู้อภิปรายแต่ละคนจะแสดงเหตุผลหรืออธิบายเพื่อสนับสนุน หรือโต้แย้งหัวข้อที่กำหนดโดยไม่มีการแบ่งฝ่าย และไม่มีการลงมติ อาจจะเป็นการอภิปรายปากเปล่าในกลุ่มหรือในชั้นเรียนและอาจให้ทุกคนเขียนสรุปผลการอภิปราย
- กิจกรรมการแสดงความคิดเห็น คือการตั้งข้อสังเกต หรือให้ข้อสรุป ตามความติดเห็นหรือตามเหตุผลของแต่ละบุคคลโดยไม่จำเป็นต้องสนับสนุนหรือคัดค้าน อาจแสดงความเห็นโดยพูด หรือเขียน ถ้าเป็นการเขียนจะมีลักษณะทำนองเดียวกับการตอบคำถามที่ต้องการให้แสดงความเห็นหรือเหตุผลประกอบคำตอบในคำถามประเภทให้ตอบเสรี
- กิจกรรมการค้นหา คือการศึกษาค้นคว้าหาข้อเท็จจริง ข้อมูลสาระสนเทศ หรือทักษะกระบวนการ(การกระทำหลายการกระทำ ซึ่งกระทำต่อเนื่องกันไปเป็นชุดเพื่อให้เกิดผลอย่างหนึ่ง) ซึ่งอาจทำโดยการรวบรวมหรือสืบค้นข้อมูลหลักฐานทางประวัติศาสตร์ และสังคมวัฒนธรรม การบันทึก วิเคราะห์ สังเคราะห์ การทดลอง การตรวจสอบกฎหรือหลักการทางเศรษฐ์ศาสตร์ การหาคำตอบในวิชาคณิตศาสตร์ การแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน
2)
เทคนิคการเขียนกิจกรรมการเรียนรู้
- เขียนให้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้และสาระสำคัญ
- จัดกิจกรรมที่หลากหลายเน้นให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติจริง เพื่อนำไปสู่การบรรลุจุดประสงค์
การเรียนรู้
- ใช้กระบวนการเรียนที่เหมาะสม
- จัดกิจกรรมที่หลากหลายเน้นให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติจริง เพื่อนำไปสู่การบรรลุจุดประสงค์
การเรียนรู้
- ใช้กระบวนการเรียนที่เหมาะสม
6.5 การวัดผลและประเมินผล
1) เขียนได้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ข้อต่อข้อ
2) มีองค์ประกอบย่อยครบถ้วน เช่น
- วิธีวัด
- เครื่องมือวัด
- เกณฑ์การวัดที่ชัดเจน
2) มีองค์ประกอบย่อยครบถ้วน เช่น
- วิธีวัด
- เครื่องมือวัด
- เกณฑ์การวัดที่ชัดเจน
1) สื่อเหมาะสม สอดคล้องกับเนื้อหา/
สาระการเรียนรู้
กิจกรรมการเรียนการสอนและผู้เรียน
2) เรียงลำดับให้สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้
3) ระบุสื่อ/ แหล่งเรียนรู้ที่ชัดเจน
6.7 การวัดผลและประเมินผล
1) เขียนได้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ข้อต่อข้อ
2) มีองค์ประกอบย่อยครบถ้วน เช่น
- วิธีวัด
- เครื่องมือวัด
- เกณฑ์การวัด
6.8 บันทึกผลหลังสอน
2) เรียงลำดับให้สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้
3) ระบุสื่อ/ แหล่งเรียนรู้ที่ชัดเจน
6.7 การวัดผลและประเมินผล
1) เขียนได้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ข้อต่อข้อ
2) มีองค์ประกอบย่อยครบถ้วน เช่น
- วิธีวัด
- เครื่องมือวัด
- เกณฑ์การวัด
6.8 บันทึกผลหลังสอน
7. แผนการจัดการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ สังเกตได้ดังนี้
7.1 มีองค์ประกอบครบถ้วน
7.2 เขียนแต่ละองค์ประกอบได้ถูกต้อง ชัดเจน
7.3องค์ประกอบของแผนมีความสัมพันธ์สอดคล้องกัน
7.4 นำกระบวนการสอนมาใช้อย่างเหมาะสม
7.5 เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการเรียนรู้แล้วผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ที่กำหนด
7.6 บันทึกผลหลังสอนได้ชัดเจน
7.2 เขียนแต่ละองค์ประกอบได้ถูกต้อง ชัดเจน
7.3องค์ประกอบของแผนมีความสัมพันธ์สอดคล้องกัน
7.4 นำกระบวนการสอนมาใช้อย่างเหมาะสม
7.5 เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการเรียนรู้แล้วผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ที่กำหนด
7.6 บันทึกผลหลังสอนได้ชัดเจน
ลักษณะของแผนการจัดการเรียนรู้ที่ดี
ควรมีดังนี้
1. มีความละเอียด ชัดเจน มีหัวข้อและส่วนประกอบต่าง ๆ ครอบคลุมตามหลักการของการสอน
1.1 สอนเกี่ยวกับอะไร (หน่วยการเรียนรู้ หัวเรื่อง ความคิดรวบยอดหรือสาระสำคัญ)
1.2 เพื่อจุดประสงค์อะไร (จุดประสงค์การเรียนรู้ ซึ่งควรเขียนเป็นจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
1.3 สาระอะไร (เนื้อหา / โครงร่างเนื้อหา)
1.4 ใช้วิธีการใดในการสอน (กิจกรรมการเรียนรู้ซึ่งใช้กิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ)
1.5 ใช้เครื่องมืออะไรในการสอน (วัสดุอุปกรณ์ สื่อและแหล่งการเรียนรู้
1.6 เราจะทราบได้อย่างไรว่าแผนการเรียนรู้ที่เราออกแบบจะประสบความสำเร็จ (การวัดและ
ประเมินผล)
1. มีความละเอียด ชัดเจน มีหัวข้อและส่วนประกอบต่าง ๆ ครอบคลุมตามหลักการของการสอน
1.1 สอนเกี่ยวกับอะไร (หน่วยการเรียนรู้ หัวเรื่อง ความคิดรวบยอดหรือสาระสำคัญ)
1.2 เพื่อจุดประสงค์อะไร (จุดประสงค์การเรียนรู้ ซึ่งควรเขียนเป็นจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
1.3 สาระอะไร (เนื้อหา / โครงร่างเนื้อหา)
1.4 ใช้วิธีการใดในการสอน (กิจกรรมการเรียนรู้ซึ่งใช้กิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ)
1.5 ใช้เครื่องมืออะไรในการสอน (วัสดุอุปกรณ์ สื่อและแหล่งการเรียนรู้
1.6 เราจะทราบได้อย่างไรว่าแผนการเรียนรู้ที่เราออกแบบจะประสบความสำเร็จ (การวัดและ
ประเมินผล)
2. แผนการจัดการเรียนรู้สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง
3. ส่วนประกอบต่าง ๆ ของแผนการจัดการเรียนรู้มีความสอดคล้องสัมพันธ์เชื่อมโยงสัมพันธ์กัน เช่น
3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ครอบคลุมสาระ / เนื้อหา และเป็นจุดที่พัฒนาผู้เรียนในด้านความรู้
ทักษะ กระบวนการและเจตคติ
3.2 กิจกรรมการเรียนรู้ ควรสอดคล้องกับจุดประสงค์และเนื้อหา / สาระ
3.3 วัสดุอุปกรณ์ สื่อ และแหล่งการเรียนรู้ ควรสอดคล้องสัมพันธ์กับกิจกรรมการเรียนรู้
3.4 การวัดผลและประเมินผล ควรสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ดีต้องเป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ดังนี้
1. มีการวิเคราะห์หลักสูตร จัดทำตารางวิเคราะห์คำอธิบายรายวิชา หรือวิเคราะห์สาระการเรียนรู้
จัดทำหน่วยการเรียนรู้ และจัดทำกำหนดการสอนหรือโครงการสอน
2. มีการวิเคราะห์ผู้เรียน โดยการจัดกลุ่มผู้เรียนตามความรู้ ความสามารถ ความสนใจ และความถนัด
แล้วนำไปเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ตามศักยภาพของผู้เรียนเพื่อเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
3. มีการกำหนดเนื้อหาสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
ศักยภาพของผู้เรียน และความต้องการของท้องถิ่น รวมทั้งการบูรณาการระหว่างวิชา
4. มีการกำหนดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย เหมาะสมและสอดคล้องกับศักยภาพของผู้เรียน มี
การบูรณาการ เน้นการคิด (ทักษะการคิด ลักษณะการคิด และกระบวนการคิด) การฝึกทักษะ การ
ปฏิบัติจริง และการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง
5. มีการกำหนดสื่อ /นวัตกรรม/แหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้/ผลการ
เรียนรู้ที่คาดหวัง กิจกรรมการเรียนรู้ วัยและความสามารถของผู้เรียน และให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมใน
การเลือก จัดหาและจัดทำสื่อ/แหล่งการเรียนรู้
6. มีการกำหนดการวัดผลและประเมินผล สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ที่
คาดหวังและกิจกรรมการเรียนรู้ มีการวัดผลตามสภาพจริง ให้ครอบคลุมทั้งด้านความรู้ ทักษะ และ
เจตคติ
7. มีองค์ประกอบสำคัญครบถ้วน เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ สอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่น เน้น
คุณธรรม จริยธรรม และมีการบูรณาการตามความเหมาะสม
8. มีความสมบูรณ์ถูกต้อง มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน ทำให้ผู้เรียนได้พัฒนา
ด้านความรู้ ทักษะและเจตคติ
3. ส่วนประกอบต่าง ๆ ของแผนการจัดการเรียนรู้มีความสอดคล้องสัมพันธ์เชื่อมโยงสัมพันธ์กัน เช่น
3.1 จุดประสงค์การเรียนรู้ครอบคลุมสาระ / เนื้อหา และเป็นจุดที่พัฒนาผู้เรียนในด้านความรู้
ทักษะ กระบวนการและเจตคติ
3.2 กิจกรรมการเรียนรู้ ควรสอดคล้องกับจุดประสงค์และเนื้อหา / สาระ
3.3 วัสดุอุปกรณ์ สื่อ และแหล่งการเรียนรู้ ควรสอดคล้องสัมพันธ์กับกิจกรรมการเรียนรู้
3.4 การวัดผลและประเมินผล ควรสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ดีต้องเป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ดังนี้
1. มีการวิเคราะห์หลักสูตร จัดทำตารางวิเคราะห์คำอธิบายรายวิชา หรือวิเคราะห์สาระการเรียนรู้
จัดทำหน่วยการเรียนรู้ และจัดทำกำหนดการสอนหรือโครงการสอน
2. มีการวิเคราะห์ผู้เรียน โดยการจัดกลุ่มผู้เรียนตามความรู้ ความสามารถ ความสนใจ และความถนัด
แล้วนำไปเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ตามศักยภาพของผู้เรียนเพื่อเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
3. มีการกำหนดเนื้อหาสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
ศักยภาพของผู้เรียน และความต้องการของท้องถิ่น รวมทั้งการบูรณาการระหว่างวิชา
4. มีการกำหนดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย เหมาะสมและสอดคล้องกับศักยภาพของผู้เรียน มี
การบูรณาการ เน้นการคิด (ทักษะการคิด ลักษณะการคิด และกระบวนการคิด) การฝึกทักษะ การ
ปฏิบัติจริง และการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง
5. มีการกำหนดสื่อ /นวัตกรรม/แหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้/ผลการ
เรียนรู้ที่คาดหวัง กิจกรรมการเรียนรู้ วัยและความสามารถของผู้เรียน และให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมใน
การเลือก จัดหาและจัดทำสื่อ/แหล่งการเรียนรู้
6. มีการกำหนดการวัดผลและประเมินผล สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ที่
คาดหวังและกิจกรรมการเรียนรู้ มีการวัดผลตามสภาพจริง ให้ครอบคลุมทั้งด้านความรู้ ทักษะ และ
เจตคติ
7. มีองค์ประกอบสำคัญครบถ้วน เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ สอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่น เน้น
คุณธรรม จริยธรรม และมีการบูรณาการตามความเหมาะสม
8. มีความสมบูรณ์ถูกต้อง มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน ทำให้ผู้เรียนได้พัฒนา
ด้านความรู้ ทักษะและเจตคติ
1. ทำให้เกิดการวางแผนวิธีสอนวิธีเรียนที่มีความหมายยิ่งขึ้น
เพราะเป็นการจัดทำอย่างมีหลักการที่
ถูกต้อง
2. ช่วยให้ครูมีคู่มือการสอนที่ทำด้วยตนเอง ทำให้เกิดความสะดวกในการจัดการเรียนการสอน ทำให้
สอนได้ครบถ้วนตรงตามหลักสูตร และสอนได้ทันเวลา
3. เป็นผลงานวิชาการที่สามารถเผยแพร่เป็นตัวอย่างได้
4. ช่วยให้ความสะดวกแก่ครูผู้มาสอนแทนในกรณีที่ผู้สอนไม่สามารถเข้าสอนได้
ถูกต้อง
2. ช่วยให้ครูมีคู่มือการสอนที่ทำด้วยตนเอง ทำให้เกิดความสะดวกในการจัดการเรียนการสอน ทำให้
สอนได้ครบถ้วนตรงตามหลักสูตร และสอนได้ทันเวลา
3. เป็นผลงานวิชาการที่สามารถเผยแพร่เป็นตัวอย่างได้
4. ช่วยให้ความสะดวกแก่ครูผู้มาสอนแทนในกรณีที่ผู้สอนไม่สามารถเข้าสอนได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น